K-FIXEDPLUS-A

หากดอกเบี้ยเงินฝากไม่พอ เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน กับตราสารหนี้คุณภาพดี

เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการฝากเงิน ที่ได้ดอกเบี้ยต่ำ

หากต้องการให้เงินงอกเงย การฝากเงินที่ได้ดอกเบี้ยต่ำ คงไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป

ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เฉลี่ย 0.25% ต่อปี ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี เฉลี่ย 0.48% ต่อปี

ที่มา: ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากเฉลี่ยของธ.กสิกรไทย กรุงเทพ
ไทยพาณิชย์ ณ 19 ม.ค.2564

ยิ่งลงทุนระยะยาวยิ่งมีโอกาส ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น

เพราะอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับอายุของตราสาร ดังนั้นยิ่งลงทุนระยะยาวตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป K-FIXEDPLUS-A ยิ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ความเสี่ยงต่ำ และมีความมั่นคง กว่าการลงทุนประเภทอื่นๆ

เพราะตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือ หุ้นกู้ มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่จะจ่ายไว้ชัดเจน ทำให้ผลตอบแทนไม่ผันผวนเหมือนการลงทุนในหุ้น

K-FIXEDPLUS-A จากกสิกรไทยมั่นใจกว่า

เพราะเน้นคัดเลือกตราสารหนี้ไทยคุณภาพดี เกรด A*

พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อโอกาสหาผลตอบแทนที่มากขึ้น

ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน K-FIXEDPLUS-A

3 เดือน
1.03%
6 เดือน
1.55%
1 ปี (ต่อปี)
1.88%
3 ปี (ต่อปี)
2.2%
ตั้งแต่จัดตั้ง (ต่อปี)
2.21%

ผลตอบแทนตัวชี้วัด

3 เดือน
0.59%
6 เดือน
0.61%
1 ปี (ต่อปี)
1.82%
3 ปี (ต่อปี)
2.12%
ตั้งแต่จัดตั้ง (ต่อปี)
2.10%

ตัวอย่างตราสารและสัดส่วนที่กองทุนลงทุน

33.67%

พันธบัตรรัฐบาล / พันธบัตรธนาคารแห่ง ประเทศไทย / พันธบัตรที่ค้ำประกัน โดยกระทรวงการคลัง

25.80%

หุ้นกู้ในไทย

บมจ.โฮมโปรดักส์เซ็นเตอร์ (HMPRO)
บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ (TBEV)
บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย (SCC)
บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)
บมจ.ปตท. (PTT)

25.06%

เงินฝากต่างประเทศ

ส่วนที่เหลือกระจายลงเงินฝากในประเทศ

K-FIXEDPLUS-A ผลตอบแทนดี ติดอันดับ 4 ดาว Morningstar

กองทุน K-FIXEDPLUS-A
ได้เรทติ้ง Morningstar 4 ดาว**

กองทุนผลการดำเนินงานดี

ติด Top 10***

สำหรับผลการดำเนินย้อนหลัง
ในช่วง 1 ปี และ 3 ปี

ทีมบริหารมีประสบการณ์
มากกว่า 30 ปี
ในตลาดตราสารหนี้ไทย

และได้รับรางวัลชั้นนำ
ทั้งในไทยและระดับสากล

Most Prominent Fund House in Corporate Bond Market

จากงาน Best Bond Awards 3 ปีซ้อน (2560-2562) จัดโดยสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

Best of the Best Awards 4 ปีซ้อน

(2561-2564) จากนิตยสาร Asia Asset Management

Morningstar Thailand Fund Awards

(2558-2560) จากการบริหารกองทุน K-FIXED ซึ่งได้รับรางวัลกองทุนตราสารหนี้ยอดเยี่ยมติดต่อกัน 3 ปีซ้อน

เปรียบเทียบกองทุน K-FIXEDPLUS-A กับกองทุนตราสารหนี้อื่นๆ

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับการลงทุนในตราสารหนี้

เงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ/เอกชน ทั้งในไทยและต่างประเทศ

ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และ ตั๋วเงินคลัง

ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ และตั๋วแลกเงิน

จากดอกเบี้ยเมื่อถือตราสารหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด (Coupon) และ กำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain)

มีโอกาสขาดทุนได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคา เนื่องจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ สิ้นวัน (NAV) จะต้องปรับมูลค่าอ้างอิงตามราคาตลาด (Mark to Market) ดังนั้นเมื่อราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง จะส่งผลต่อราคา NAV ที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม หากถือกองทุนจนถึงระยะเวลาที่แนะนำก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง เช่น กองทุนตราสารหนี้ ระยะกลางถึงยาว ควรถือกองทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพื่อลดความผันผวน

อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย

ความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ โดยตราสารหนี้ที่ Credit Rating สูง จะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ (เรียงอันดับตั้งแต่จากสูงสุด AAA ไป ต่ำสุด D) โดยเป็นการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ซึ่งในประเทศไทยมี 2 แห่งคือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ต่ำกว่า โดยมีระดับความเสี่ยง 4 เปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นที่ระดับ 6

เกี่ยวกับกองทุน K-FIXEDPLUS-A

กองทุนมีการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว จึงอาจเกิดความผันผวนทำให้ผลตอบแทนติดลบได้ระยะสั้นๆ แต่ถ้าผู้ลงทุนถือกองทุนได้ในช่วงเวลาที่แนะนำคือ 1 ปีขึ้นไป คาดว่ากองทุนจะทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

แนะนำให้มีตราสารหนี้อยู่ในพอร์ตในสัดส่วนตั้งแต่ 5-15% เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวม

นโยบายการลงทุนเหมือนกัน เพียงแต่ K-FIXEDPLUS-SSF แยก class ออกมาเป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี

ผลตอบแทนของตราสารหนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพบริษัท สภาพตลาดตราสารหนี้ หรือ การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น

ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทคุณภาพดี อันดับความน่าเชื่อถือสูง คือมีความมั่นคงกว่า ดังนั้นความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้จึงต่ำและให้ผลตอบแทนน้อยกว่า ในทางกลับกัน ตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำ ผลตอบแทนจึงจะสูงกว่าเพื่อบวกค่าความเสี่ยงให้นักลงทุน เนื่องจากมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ได้

ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้จัดการกองทุนต่อสภาวะตลาดการเงิน เช่น ผลตอบแทนและความเสี่ยงของการลงทุนในต่างประเทศดีกว่าในประเทศหรือไม่ รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของประเทศหรือบริษัทนั้นๆ ว่าดีมากน้อยเพียงใด

เกี่ยวกับการเริ่มต้นลงทุน

สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย

  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ KBank และมีแอป K PLUS แล้ว กดเปิดบัญชีผ่านเมนู “ลงทุน” ได้เลย
  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ SCB, KTB เลือกเปิดบัญชีกองทุนผ่าน K-My Funds

สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา

*ข้อมูล ณ 29 ม.ค. 64
**Rating Overall ในกลุ่ม Thailand Fund Mid/Long Term Bond ที่มา: Morningstar 31 ม.ค. 2564
***กลุ่ม Thailand Fund Mid/Long Term Bond ไม่รวมกองทุน ETF ที่มา: Morningstar 30 ธ.ค. 2563

ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A และ K-FIXEDPRO กองทุนความเสี่ยงระดับ 4
- K-SFPLUS กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100%
- K-FIXEDPLUS-A และ K-FIXEDPRO กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- การลงทุนในตราสารหนี้อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา